Abstract

ภูมิหลังและวัตถุประสงค์: การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเป็นหนึ่งทางเลือกในการสร้างความมั่งคั่งที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนจำนวนมากมองหาทางเลือกที่ให้ผลตอบแทนสูงขึ้น หนึ่งในกลยุทธ์การลงทุนที่ได้รับความสนใจคือการลงทุนในหุ้นปันผล ซึ่งนอกจากมีโอกาสได้รับผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของราคาหุ้นแล้วยังมีรายได้จากเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ บทความนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์ผลตอบแทนจากการลงทุนหุ้นปันผลใน SETHD ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยกรณีศึกษาช่วงปี 2562 – 2566 และ2) เพื่อเสนอแนวทางการเลือกหุ้นปันผลใน SETHD ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระเบียบวิธีวิจัย: คัดเลือกหุ้นที่อยู่ใน SETHD ทั้งครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังตลอดช่วงกรณีศึกษา พบว่ามีหุ้นจำนวน 7 บริษัทที่อยู่ในเงื่อนไขดังกล่าว ได้แก่ AP, KKP, KTB, LH, PTT, TCAP และ TISCO ผลการศึกษา: หุ้นที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนีดังกล่าว มีจำนวน 2 บริษัท ได้แก่ LH และ TISCO หุ้นที่มีอัตราการจ่ายปันผลสูงกว่าค่าเฉลี่ย มีจำนวน 2 บริษัท ได้แก่ LH และ TISCO และหุ้นที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้นสูงสุดตลอดช่วงกรณีศึกษา มีจำนวน 2 บริษัท ได้แก่ TCAP และ TISCO สรุปผล : เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีนักลงทุนต้องให้ความสำคัญ ดังนี้ 1) อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล โดยเลือกหุ้นที่มีผลตอบแทนที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยของดัชนี และควรมีแนวโน้มผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 2) อัตราการจ่ายปันผล โดยเลือกหุ้นที่มีอัตราการจ่ายระหว่างร้อยละ 40 – 60 หรืออยู่ในระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ย เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ และ 3) กำไรสุทธิต่อหุ้น โดยเลือกหุ้นที่มีกำไรสุทธิต่อหุ้นเติบโตต่อเนื่องเพราะจะแสดงถึงการดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งมีศักยภาพในการทำกำไรและการควบคุมต้นทุนที่ดี

Talk to us

Join us for a 30 min session where you can share your feedback and ask us any queries you have

Schedule a call

Disclaimer: All third-party content on this website/platform is and will remain the property of their respective owners and is provided on "as is" basis without any warranties, express or implied. Use of third-party content does not indicate any affiliation, sponsorship with or endorsement by them. Any references to third-party content is to identify the corresponding services and shall be considered fair use under The CopyrightLaw.